ก่อนอื่น OSAKI จะพาเพื่อนๆ มาดูอาการของโซ่ข้อตายกันก่อน เราสามารถสังเกตุได้จากการใช้งานตอนขับขี่ ในขณะที่เราขับรถ ถ้ารู้สึกว่าโซ่มีเสียงดังผิดปกติหรือมีเสียงโซ่สะบัดขึ้นลง โซ่ขยับได้ไม่คล่อง หนืดๆฝืดๆ ให้เราทำการตั้งรถให้อยู่ในแนวระนาบตั้งตรง (ตั้งขาตั้งคู่) และทำการหมุนโซ่ไปเรื่อยๆ มองสังเกตตามข้อต่อโซ่ทุกข้อ ว่ามันยังไปในแนวเดียวกันไหม ถ้ามีข้อใดข้อหนึ่งหงิกงอ นั่นแสดงว่าโซ่ของคุณเริ่มมีปัญหาแล้ว หนักเข้าข้อต่อบางข้อจะฝืดขนาดขยับเกือบไม่ได้เลย ต้องรีบทำการแก้ไข ไม่เช่นนั้นโซ่อาจจะขาด หรือหลุดจากสเตอร์ในขณะที่รถวิ่งอยู่ จนเกิดอันตรายก็เป็นได้

สาเหตุที่ทำให้โซ่ข้อตาย 

การที่ไม่ทำความสะอาดโซ่นั้น จะให้โซ่เสื่อมสภาพไว เพราะรถที่เราใช้ขับขี่ไปที่ต่างๆนั้นเราต้องเจอทั้งฝุ่น ทั้งน้ำ บางครั้งอาจจะมีเศษหินเล็กๆที่ติดมากับน้ำเข้าไปติดระหว่างข้อต่อโซ่ และการปล่อยไว้แบบนั้นนานๆ การสึกหลอของโซ่นั้นจะไวกว่าคนที่ดูแลทำความสะอาดโซ่อย่างสม่ำเสมอ

 

การที่เราปล่อยให้โซ่แห้ง ทำให้โซ่ขาดการหล่อลื่น ลองคิดภาพเหล็กสีเหล็กเป็นเวลานานๆ โซ่รถเราจะสึกหลอและเสื่อมสภาพเร็วแค่ไหน เพราะข้อต่อที่มีการหมุนทำงานตลอดเวลา หากไม่มีสารหล่อลื่นช่วยนั้นก็จะทำให้โซ่ฝืด รวมถึงเมื่อโซ่ที่เป็นเหล็กเจอกับความชื้น หรือ โดนน้ำจากที่ต่างๆ ก็ทำให้โซ่เกิดสนิม ทำให้โซ่ทำงานติดขัดและเกิดปัญหาข้อตายในที่สุด

 

 วิธีแก้ไขคือ 

ลองทำการล้างโซ่ให้สะอาด และทำการเติมสารหล่อลื่นเข้าไปใหม่ ถ้าโซ่ที่มีอาการติดขัดไม่มาก ทำแล้วอาจจะหายและกลับมาใช้งานต่อได้ แต่ถ้าเป็นเยอะ ทำตามวิธีข้างต้นแล้วไม่หาย OSAKI แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ทั้ง โซ่-สเตอร์ รวมถึงและยางกันกระชากด้วยครับ

ก่อนจบ OSAKI ขอแนะนำ เรื่องความสะอาดและหล่อลื่น ควรทำทุกๆระยะ 500 กม. ไม่ต้องรอให้โซ่สีเสียงดังก็ทำได้ ส่วนเรื่องปรับตั้งความตึง-หย่อน แล้วแต่ความเหมาะสม ไม่มีระยะตายตัว เพราะนิสัยการขับขี่ของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน หากทำได้ ชุดโซ่-สเตอร์จะใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้นครับ